วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2558

มวยไชยา






   มวยไทยไชยามีมาตั้งแต่สมัยโบราณเป็นมวยในวังหลวงเป็นมวยรบที่ให้ความสำคัญกับการป้องกันตัวดังนั้นมวยไชยาจึงเป็นหนึ่งในสายมวยที่ถูกเลือกให้เป็น กรมทนายเลือก คอยดูแลอารักขาความปลอดภัยพระมหากษัตริย์ในสมัยโบราณเพื่อปกป้องบ้านเมืองและร่วมออกศึกออกรบตามเสด็จไปด้วยมวยไชยามีที่มาจาก พ่อท่านมา แห่งเมืองรัตนโกสินทร์ท่านได้เบื่อชีวิตการเป็นทหารและเบื่อต่อฆราวาสสมบัติ ท่านจึงได้ออกบวชแล้วได้เดินธุดงค์เรื่อยไป จนได้ไปอยู่ที่วัดทุ่งจับช้าง ซึ่งในขณะนั้นเองท่านได้เมตตาถ่ายทอดศิลปะการต่อสู้ของไทยให้กับประชาชนที่นั่น หนึ่งในลูกศิษย์ของท่านหนึ่งในลูกศิษย์ของท่านพ่อมาคือพระยาวจีสัตยารักษ์ (ขำ ศรียาภัย) ซึ่งเป็นเจ้าเมืองไชยา ท่านก็ได้ถ่ายทอดวิชานี้ให้แก่ลูกๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือนายเขตร ศรียาภัย
    หลังจากที่นายเขตร ศรียาภัย ได้ร่ำเรียนจากบิดาคือท่านเจ้าเมืองแล้วนายเขตร ศรียาภัย ยังได้ร่ำเรียนจากครูมวยอื่นๆอีกรวมแล้วถึง 12 ครู ซึ่งในกาลต่อมาท่านได้ถูกขนานนาว่า“ปรมาจารย์”ซึ่งมวยไชยาตำรับของพ่อท่านมาที่สืบทอดมายังท่านปรมาจารย์เขตร ศรียาภัยนั้น ได้ถูกเกลา ถูกวิคราะห์ ต่อเติมให้เข้ากับยุคสมัยและสามารถใช้ได้ในเหตุการณ์จริง
สมัย ร.5 ในงานพระเมรุ กรมขุนมรุพงษ์ศิริพัฒน์ ณ ท้องทุ่งพระเมรุป้อมเผด็จดัสกรกรุงเทพฯได้จัดให้มีการตีมวยหน้าพระที่นั่งครั้งใหญ่ เจ้าเมืองจากหัวเมืองต่างๆได้จัดส่งนักมวยของตนลงแข่งขัน และได้มีนักมวยฝีมือดีอยู่ 3 คนที่ได้ทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น “หมื่น” อันได้แก่



1. หมื่นมวยมีชื่อ (ปล่อง จำนงทอง) มวยไชยา
ถนัดใช้ท่า เสือลากหาง เข้าทุ่มทับจับหักคู่ปรปักษ์



2. หมื่นมือแม่นหมัด(กลิ้ง ไม่ทราบนามสกุล) มวยลพบุรี
ถนัดใช้หมัดตรง และหลบหลีก รุกรับ ว่องไว

3. หมื่นชะงัดเชิงชก(แดง ไทยประเสริฐ) มวยโคราช
ถนัดใช้ท่า หมัดเหวี่ยงควาย ที่รุนแรง คว่ำปรปักษ์





    จนมีคำกล่าวผูกเป็นกลอนว่า ” หมัดดีโคราช ฉลาดลพบุรี ท่าดีไชยา ”จะเห็นได้ว่าผู้ที่เป็นนักมวยในสมัยนั้น ได้รับการยกย่องมาก เพราะบ้านเมืองสนับสนุนและเมืองที่มีมวยฝีมือดีก็จะได้รับการยกย่องให้เป็น ” เมืองมวย ไชยา นั้นเป็นที่นิยมแพร่หลาย ในเขตภาคใต้ตั้งแต่ ชุมพร หลังสวน ลงมาโดยมีเมืองไชยาเป็นศูนย์กลาง และยังมีครูมวยอีกหลายท่านที่มีชื่อเสียงมากมายและยังเป็นหนึ่งในสายมวยที่ได้รับฉายา “หมื่นมวยมีชื่อ” เมื่อครั้งที่นายปล่องจำนงทอง ใช้ท่าเสือลากหางอันเป็นท่าลูกไม้สำคัญเข้าทุ่มทับนักมวยจากโคราช ลงไปสลบหน้าพระที่นั่งพระพุทธเจ้าหลวงตั้งแต่นั้นจึงเรียกว่า มวยไชยา 




"มวยไชยา" มีเอกลักษณ์ตรงการป้องกันตัวที่รัดกุม ใช้สมองในการต่อสู้ เน้น 'วงใน' คือใช้ความคมของส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น ศอก เข่า เพื่อการป้องกันตัว โดยการเคลื่อนไหวจะกลมกลืนและสอดคล้องกับหลักวิทยาศาสตร์สุขภาพเป็นสำคัญ


พาหุยุทธอคือ การวอร์มร่างกาย คล้ายท่ายืดหยุ่น แต่เป็นสไตล์ของมวยไชยา เพื่อนำเข้าสู่บทเรียนมวยไทยย่างสามขุม คือ อีกหัวใจของแม่ไม้มวยไทย หรือเรียกว่า การเดินมวย นั่นเองป้อง-ปัด-ปิด-เปิด หรือเรียกว่า 4 ป เป็นการเรียนรู้พื้นฐานการป้องกันตัวอวัยวุทธ คือ การฝึกใช้อวัยวะมีคมในร่างกายให้เป็นอาวุธเข้าคู่ คือการฝึกซ้อมร่วมกัน


    เอกลักษณ์ของมวยไชยา พบว่ามีอยู่ 7 ด้าน คือ การตั้งท่ามวยหรือการจดมวย ท่าครูหรือ ท่าย่างสามขุม การไหว้ครูร่ายรำ การพันมือแบบคาดเชือก การแต่งกาย การฝึกซ้อมมวยไชยาและแม่ไม้มวยไชยา กระบวนท่ามวยไชยามีทั้งหมด 5 ชุด คือ แม่ไม้มวยไทยไชยา 7 ท่า ได้แก่ ปั้นหมัด พันแขน พันหมัด กระโดดตบศอก พันหมัดพลิกเหลี่ยม เต้นแร้งเต้นกา ย่างสามขุม ท่าที่สำคัญคือท่า เสือลากหาง เคล็ดมวยไชยาที่ใช้ป้องกันได้ดีที่สุดคือ ป้อง ปัด ปิด เปิด


    โดยมีจุดประสงค์ในการเรียนการสอน คือ เพื่อเป็นการอนุรักษ์สืบสาน ศาสตร์และศิลป์ในการต่อสู้ของคนไทยตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันโดยอาศัยอวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกายเป็นอาวุธ อันได้แก่ หมัดเท้าเข่าศอก ไปจนถึงหลักกลยุทธ์อื่นๆ เช่น การทุ่มทับจับหัก, โอนอ่อนผ่อนตาม เป็นต้น อีกทั้งยังเป็นการทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง คล่องแคล่วว่องไว มีคุณธรรม สมาธิ สติปัญญา ที่ชาญฉลาด และเมื่อสิ่งต่างเหล่านี้ ได้หล่อหลอมรวมกัน จะทำให้เกิดการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสงบสุข



    ท่าสำคัญของมวยไชยาเบื้องต้นหากเริ่มหัดมวยไชยา ขั้นพื้นฐานจะเริ่มที่การกำหมัด การยืนมวย ท่าครู การเดินมวย การย่างสามขุม การย่อ เมื่อคล่องจากขั้นพื้นฐานจึงเป็นขั้นการออกอาวุธท่าสำคัญของมวยไชยาที่ใช้ป้องกันตัว เช่น ป้อง ปัด ปิด เปิด, เหยาะ ย่าง ยัก เยื้อง, หลบ หลีก ล่อ หลอก, ล้ม ลุกคลุกคลาน, กอด รัด ฟัด เหวี่ยง ,ทุ่ม ทับ จับ หัก เป็นต้น   

     มวยไชยาและมวยไทย มีความต่างกันหลายอย่าง คือมวยไชยาจะไม่มีกฎเกณฑ์ ไม่ว่าจะนั่ง นอน ยืน เดิน สามารถตอบโต้ไม่โดยไม่มีข้อแม้ หรือจะทิ่มตา ตีกระเดือก ซ้ำเติมคู่ต่อสู้อย่างไรก็ได้ แต่มวยไทยนั้นคือกีฬามีกฎเกณฑ์ข้อห้ามในการต่อสู้ มวยไชยานั้นจะเน้นไปทางการป้องกันตัวมากกว่าไม่ว่าจะตัวเล็กกว่าคู่ต่อสู้ถ้าหากเรารู้จักท่าหลักสำคัญของมวยไชยา ก็สามารถปกป้องตัวเองจากคู่ต่อสู้ได้และคู่ต่อสู้จะได้รับบาดเจ็บจากการป้องกันตัวของเรา

         


     "มวยไชยานั้นเป็นการป้องกันตนเองและพร้อมทั้งตอบโต้คู่ต่อสู้โดยทันทีโดยมีอวัยวะในร่างกาย เช่น หมัด เท้าเข่า ศอก ท่อนแขนของเราเป็นอาวุธในการต่อสู้ เรียกว่า "อวัยวุธ" มวยไชยาไม่ใช่เพื่อการต่อสู้เพียงอย่างเดียว นอกจากจะใช้ป้องกันตัวได้แล้วยังได้ฝึกสมาธิออกกำลังกาย และได้วัฒนธรรมไทย อีกด้วย"




คลิปสัมภาษณ์
 ครูแปรง ศุนย์ศึกษาสยามยุทธ์บ้านครูแปรง
เป็นมาของมวยไชยา ความสำคัญของมวยไชยาและความแตกต่างของมวยไชยากับมวยไทย





คลิปสัมภาษณ์ 
พี่สุง ลูกศิษย์ครูแปรง มวยไชยามีดีอย่างไรใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไรบ้าง














Creative Commons License
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-ShareAlike 4.0 International License.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น